“ยอดขายส่วนใหญ่ของทุกวันนี้ ก็มาจากสินค้าที่อัพโหลดลงช่วงนั้นแหละครับ” บทสัมภาษณ์คุณน็อต หนึ่งใน Top Seller ของ Laser Chili

วันนี้ผมจะมาแชร์เรื่องราวของ “คุณน็อต” หนึ่งใน Top Seller ของ Laser Chili กันครับ 

คุณน็อตเข้ามาทำ Laser Chili ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม ปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทางทีมผมกำลังเปิดโรงงาน Laser Chili กันที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพอดี

ณ ตอนนั้นมีกลุ่มของ The Wealth Matters จัดไลฟ์ทุกอาทิตย์ และเชิญทีมที่มีความรู้ความสามารถด้านต่างๆ มาแชร์ประสบการณ์กัน และทีมงาน Laser Chili ได้รับโอกาสไปแชร์เรื่องของการขายสินค้า Print on Demand

คุณน็อตได้พบกับพวกเราทีมงาน Laser Chili จากไลฟ์ครั้งนั้น และได้เริ่มขายสินค้า Laser Chili จนเป็นถึง Top Seller ของเราในตอนนี้

เรามาทำความรู้จักกับคุณน็อตกันดีกว่าครับ


  • รบกวนคุณน็อตแนะนำตัวหน่อยครับ เป็นใคร มาจากไหน เคยทำอะไรมาบ้าง

สวัสดีครับ ผมชื่อน็อต ทำธุรกิจของครอบครัว เป็นโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ครับ ก่อนหน้านี้พยายามหางานออนไลน์ทำเสริมมาตลอด แต่ก็ยังไม่เจออะไรที่เวิร์คจนได้มาลองทำ Laser Chili ครับ

  • คุณน็อตเริ่มทำ Laser Chili ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมถึงจับพลัดจับผลูมาทำได้ครับ?

ผมเริ่มทำตั้งแต่ประมาณปลายๆ เดือนสิงหาคม ปี 2021 ครับ พอดีดูไลฟ์ในกลุ่มของ The Wealth Matters แล้วบังเอิญเจอทีมของ Laser Chili พูดเรื่อง Print on Demand ก็เริ่มสนใจ อยากลองทำเพื่อหารายได้เป็นอาชีพเสริมครับ

  • คุณน็อตใช้เวลานานไหมครับ ถึงจะมียอดครั้งแรก?

ผมเริ่มลงสินค้า Laser Chili ครั้งแรกตอนเดือนกันยายน หลังจากที่ได้ดูไลฟ์เลย มีออเดอร์แรกเข้ามาตอนเดือนตุลาคม ก็รอประมาณหนึ่งเดือนครับ แต่ผ่านไปสองอาทิตย์ ลูกค้าก็ขอรีฟันด์เลย 5555+

(ยอดขายปลายปีแรกของคุณน็อตหลังจากเริ่มทำตอนปลายเดือนสิงหาคม)

  • นอกจาก Amazon แล้ว คุณน็อตได้ลงขายสินค้า Laser Chili บน Marketplace อื่นบ้างไหมครับ?

ผมขายสินค้า Laser Chili บน Amazon ที่เดียวครับ ตอนลงขายบน Etsy พอได้ออเดอร์แรกแอคเคาท์ก็โดนปิด พยายามสมัครอีกครั้ง พอได้ออเดอร์แรกก็โดนปิดอีกรอบ ลองซื้อแอคเคาท์มาทำก็โดนปิดอีก ก็เลยไม่ขายบน Etsy ละครับ

  • ตอนนี้คุณน็อตมีสินค้าบน Amazon กี่ชิ้นแล้วครับ?

ตอนนี้ลงไป 46,585 ชิ้นแล้วครับ

  • โอ้ววว…เยอะใช้ได้เลยครับ แอบถามหน่อยครับ ปีที่แล้วยอดขายเป็นไงบ้างครับ ดีกว่าปีแรกเยอะมั้ย?

ยอดขายปีที่แล้วดีขึ้นเยอะมากเลยครับ ปีที่แล้วขายไปได้เกือบๆ 2500 ชิ้นเลยครับ ยอดส่วนใหญ่มาจากช่วงปลายปีครับ 🙂

(ยอดขายบน Amazon ของคุณน็อตในปี 2022)

  • ยอดขายเพิ่มขึ้นขนาดนี้นี่ คุณน็อตทำอะไรไปบ้างครับ?

ตอนปลายปี 2021 ผมเห็นว่ายอดขายเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี่เพิ่มขึ้นเยอะเลย (สำหรับผม) ผมก็เลยอยากหาวิธีเพิ่มยอดขายแต่ล่ะเดือนดูว่าทำยังไงได้บ้างนะ 

ผมเริ่มกลับมาดูคอร์สของ Laser Chili ที่คุณบุ้คสอนซ้ำอีกรอบ แล้วก็ไล่อ่านเมลล์กับโพสต์ในบลอคของคุณแบงค์ พยายามจะแกะหาวิธีของคนเก่งๆ ว่าเค้าทำอะไรกันยังไงบ้าง ก็มาเจอว่าสิ่งที่น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายต่อไปได้ก็คือ Amazon FBA 

(FBA ย่อมาจาก Fulfilled By Amazon เป็นการขายสินค้าบน Amazon แบบส่งสินค้าไปสต็อคที่โกดังเก็บสินค้าของ Amazon ก่อน และ Amazon จะทำการจัดส่งสินค้าของเราไปให้ลูกค้าเมื่อมีออเดอร์)

ทำให้ผมตัดสินใจลองเลือกสินค้าของตัวเองที่ขายดีมาชิ้นนึง จากนั้นลองสั่ง FBA สำหรับสินค้านี้ครั้งแรก 10 ชิ้น (1 กล่อง) ตอนเดือนเมษายน ปี 2022

หลังจากนั้นพอเห็นว่าเริ่มมียอดขายเพิ่มขึ้น ก็ทยอยสั่งมาเรื่อยๆ ครับ สั่งเยอะสุด (ประมาณ 90% ของทั้งหมด) ตอนเดือนกันยายน ก่อนเข้าช่วงขายดีตอนปลายปี ตอนนี้มีสินค้าที่เป็น FBA ประมาณ 40 สินค้าแล้วครับ

  • เจ๋งมากเลยครับ คุณน็อตมีคำแนะนำในการเลือกสินค้ามาทำเป็น FBA มั้ยครับ?

อันนี้ทำตามที่คุณแบงค์เคยโพสตอบในกลุ่มเลยครับ ก็คือผมเลือกสินค้าที่ขายได้ 2-3 ชิ้นต่อเดือน และมียอด View สินค้าตั้งแต่ 50 ครั้งขึ้นไป หรือขายได้ 5 ชิ้นขึ้นไปในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาครับ

  • สินค้า FBA ที่ส่งไป ส่วนใหญ่ขายได้ไหมครับ พอมีคำแนะนำอะไรอยากบอกคนที่อยากส่ง FBA แต่ไม่กล้าสั่ง (เพราะกลัวขายไม่ได้) บ้างครับ?

ปัจจุบัน 80% ของสินค้า FBA ที่ผมส่งไป ขายได้อย่างน้อยหนึ่งชิ้นต่อเดือนครับ

มีประมาณ 20% ที่ส่งไปแล้วขายไม่ได้เลย แต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ขายออกทุกสินค้าที่ส่งไปทันครับ

สำหรับคำแนะนำคนที่ยังไม่กล้าสั่ง…ผมคิดง่ายๆ กว่า ถ้าเราส่ง FBA ซักกล่อง อย่าง Glidelock Bracelet ไปซัก 10 ชิ้น ต้นทุนประมาณ $69.5 (ค่าของ) + $4 (ค่าส่งไป Amazon) = $73.5 

ถ้าขายสินค้า FBA ราคาชิ้นละ $29.95 หักค่า Fee ประมาณ $8-10 เราก็จะได้กำไรชิ้นล่ะประมาณ $20 (แบบยังไม่หักต้นทุนค่าของ)

เราขายได้ 4 ชิ้น เราก็ได้กำไรแล้ว (ต้นทุนค่าของอยู่ที่ $73.5) ความเสี่ยงที่จะขาดทุนคือน้อยมาก

ข้อดีอีกอย่างของ Laser Chili คือ เราสามารถสั่งสินค้า FBA ไปลองขายได้ในปริมาณที่น้อยมาก เริ่มต้นแค่ 10 ชิ้นเอง 

ถ้าขายไม่ได้เลย เราก็จะขาดทุนแค่ประมาณ $70 แต่ถ้าสินค้าที่เราส่งไปเริ่มขายได้ เราจะสามารถทำกำไรต่อยอดจากนั้นไปได้อีกเยอะมากๆ

ซึ่งผมมองว่าคุ้มที่จะเสี่ยงครับ

  • ทุกวันนี้คุณน็อตใช้เวลากับการทำสินค้า Laser Chili นานไหมครับ ประมาณกี่ชั่วโมงต่อวัน กี่วันต่อสัปดาห์ มี Flow การทำงานยังไงบ้างครับ?

ทุกวันนี้ผมทำงานตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ วันล่ะประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับ เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการรีเสิชกับการออกแบบงานใหม่ๆ

สำหรับ flow ในการทำงาน ที่ผ่านมางานเกือบทั้งหมดของผมจะเลือกทำแบบ หา Quote เดียวที่สามารถใช้ได้กับ Niche ใหญ่ๆ อย่าง Family หรือ Jobs ครับ

จากนั้นผมจะเตรียมเทมเพลท design ของแต่ล่ะชนิดสินค้าไว้ใน Canva ครับ

แล้วก็เตรียมเทมเพลทสำหรับ niche เป็นไฟล์ Excel แยกแต่ล่ะหมวดหมู่เอาไว้

หลังจากนั้นก็เลือก quote ที่เหมาะกับ niche นั้นๆ มาใส่ใน Canva แล้วก็ bulk create / export design มาเป็นไฟล์ PNG เก็บไว้ในคอม

พอ design พร้อมแล้ว ผมก็มาจัดการไฟล์ CSV ต่อ ผมจะเอา quote ที่เลือกเอาไว้ไปใส่ในเทมเพลท niche ที่เป็นไฟล์ Excel ที่ผมเตรียมไว้ แล้วก็ export เป็น CSV ออกมา หนึ่งไฟล์ต่อหนึ่งสินค้า

จากนั้นก็เอาไฟล์ PNG กับ CSV ที่ได้ไป bulk upload เข้าระบบ Laser Chili ครับ

ถ้ามี design จากเทมเพลทที่ขายได้ ก็จะเก็บเทมเพลทนี้ไว้ทำ quote อื่นขายต่อ

แต่ถ้าทำไปหลาย quote แล้วขายไม่ได้เลยก็จะหยุด แล้วไปออกแบบเทมเพลท design ใหม่ ทำใหม่ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอ design ที่ขายได้ครับ

พอเริ่มขายได้ก็จะดู Report เลือกสินค้าที่จะส่ง FBA ส่วนใหญ่คือจะเลือกวีคล่ะ 1-2 ครั้งครับ

  • คุณน็อตมีแผนสำหรับปลายปีนี้ยังไงบ้างครับ?

ตอนนี้ผมตั้งเป้าไว้สองอย่างครับ คือจะต้องมีสินค้าขายดีมาทำ FBA ให้ได้ 150 สินค้าให้ได้ และลงสินค้าบน Amazon ให้เกิน 80,000 สินค้าครับ

  • ขอบคุณคุณน็อตมากเลยครับ สุดท้ายนี้คุณน็อตมีอะไรอยากแนะนำมือใหม่ หรือเพื่อนๆ ที่กำลังขายสินค้า Laser Chili มั้ยครับ?

สำหรับเรื่องเทคนิคต่างๆ ก็ไม่มีอะไรมากครับ หลักๆ ผมทำตามที่คุณบุ้คกับคุณแบงค์สอนในคอร์สทุกอย่างเลย ทำไปแล้วก็กลับมาดูซ้ำ อ่านซ้ำแล้วก็กลับไปทำต่อ

จะบอกว่าที่ผมทำมีแค่นั้นจริงๆ ครับ คือลองทำตามในคอร์ส พอมีชาเลนจ์ก็เข้าร่วม และทำตามซ้ำไปเรื่อยๆ

แต่ล่ะวันก็เตรียมงาน ทำ Design และไฟล์ CSV สำหรับอัพโหลดเข้าระบบ Laser Chili กด Publish แล้วก็ปล่อยให้ระบบลงสินค้าให้เรื่อยๆ

อีกเรื่องที่อยากจะเล่าคือ ช่วงแรกที่ทำ Laser Chili มี Upload Contest คือมีรางวัลให้กับคนที่ Upload สินค้าเยอะๆ ด้วย

(Laser Chili มีจัด Contest ตามเทศกาลต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้ Sellers ลงสินค้าและสร้างยอดขาย)

ตอนนั้นที่ผมคิดมีอย่างเดียวคือ “อัพไปก่อนเยอะๆ” ขายได้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ได้เครดิตเงินไว้ใช้ในระบบ Laser Chili ก็ยังดี

ทำให้ผมรีบทำรีบลงสินค้าเยอะๆ ไม่ได้ประณีตอะไรเยอะแยะ สุดท้ายยอดขายส่วนใหญ่ของทุกวันนี้ ก็มาจากสินค้าที่อัพโหลดลงช่วงนั้นแหละครับ


จบละครับ บทสัมภาษณ์ของ “คุณน็อต” Top Seller ของเราในวันนี้ หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบและได้รับแรงบันดาลใจกันนะครับ 

ขอขอบคุณคุณน็อตมากๆ เลยครับ ที่ช่วยแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ให้เราอ่านกัน หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจอยากลองขายสินค้า Laser Chili แบบคุณน็อต สามารถเริ่มสมัครและลงขายสินค้าได้ฟรี โดยสร้างแอคเคาท์ได้ที่ LaserChili.com และสามารถเข้ากลุ่ม Laser Chili Thailand ได้เลยครับ 🙂